เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ทีมนักวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากจากการทดลองทางคลินิกในมนุษย์ที่ตีพิมพ์และการศึกษาความเป็นพิษในแบบจำลองสัตว์ ทั้งหมดนี้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดไว้ จุดมุ่งหมายคือเพื่อกำหนดระดับการบริโภค CBD ที่ปลอดภัยและยอมรับได้ในแต่ละวัน

มี Case กรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงหลังคลอด 2 คนที่มีโอสเตียโปเนียและได้รับการรักษาด้วยแคนนาบิไดออล (CBD) ทางปาก พบว่ามีการลดตัวบ่งชี้กลับไปส่วนของกระดูก ผู้ร่วมกิจกรรมในการศึกษา 2 รายนี้ถูกสุ่มให้รับ CBD 100 มก. หรือ 300 มก. ต่อวันเป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์

จากการศึกษาที่ควบคุมด้วยยาหลอกกับผู้ป่วยมะเร็งนรีเวช 54 รายสารสกัดจากกัญชาช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนที่เกิดจากเคมีบําบัด

Edit Column
Edit Text Editor
นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่าสาร Cannabinoids และTerpene สามารถส่งเสริมสุขภาพผิวได้อย่างไร จากการค้นพบในวารสารปี 2022 Cannabinoids และสารประกอบอื่นๆ ที่พบในต้นกัญชามีบทบาทสำคัญในการปกป้องผิว ลดความแห้งกร้าน จำกัดการทำงานของจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค ลดการอักเสบ และชะลอกระบวนการชราตามธรรมชาติ

งานวิจัยพบว่าการใช้กัญชามีพัฒนาการเป็นเบาหวานประเภท 2 น้อยกว่าคนไม่ใช้
การเกิดขึ้นของเบาหวานประเภทที่ 2 ในกลุ่มผู้ที่บริโภคกัญชา “ต่ำกว่าผู้ที่ไม่เคยได้รับสาร Cannabinoid ถึง 0.48 เท่า” นอกจากนี้คนที่ใช้กัญชายังมีค่าดัชนีมวลกายต่ำกว่าและอาจมีแรงจูงใจมากขึ้นในการออกกําลังกายมากกว่าผู้ไม่ใช้อีกด้วย

การศึกษาเกี่ยวกับการทดสอบตัวอย่างกัญชา 36 ตัวอย่างพบว่าการตรวจวิเคราะห์สารจาก Lab ก่อนนำไปใช้ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากเนื่องจากอาจจะมีสารปนเปื้อนได้

ปัจจุบันนี้การรักษาและป้องกันมะเร็งไม่ให้ลุกลามก็คือ การทำคลีโมและใช้ยาควบคู่กัน ซึ่งอาจเกิดผลข้างเคียงต่างๆ แต่มีการศึกษาว่า CBD อาจลดผลข้างเคียงได้

มีหลักฐานเพิ่มเติมสำหรับการนำ CBD มาใช้รักษาโรคลมบ้าหมูจากวิจัยนี้พบว่า CBD เป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพต่อผู้ป่วยทำให้การชักลดลงอย่างกว่า 1 ใน 4 ของผู้ป่วย

กัญชาอาจมีประโยชน์ในการรักษาเพื่อบรรเทาอาการของโรคเส้นโลหิตตีบ (amyotrophic lateral sclerosis – ALS) เนื่องจากมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาแบบ pleiotropic การศึกษานี้เป็นครั้งแรกที่นำเสนอการสำรวจตามแบบสอบถามต่อกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่เกี่ยวกับสถานการณ์ “ในชีวิตจริง”

NHS อนุมัติการทดลองทางคลินิกเกี่ยวกับยารักษาโรคจากกัญชาและอาการปวดเรื้อรัง โดยทดลองอาการปวดเรื้อรังที่ไม่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง โดยได้รับไฟเขียวจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักร